หลังผ่านบอลให้ นูนเญซ ซัดเม็ดแรกพาทีมออกนำ ซาลาห์

ก็สบโอกาสกระทุ้งเม็ดสองให้กับเจ้าบ้านในนาทีที่ 14 พร้อมทั้งสร้างสถิติมากมายด้วยการนำเป็นดาวซัลโวของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้แปดประตูขณะเดียวกัน กองหน้าทีมชาติ อียิปต์ ยังผงาดเป็นดาวซัลโวสูงสุดในรายการนี้ของดาวเตะแอฟริกันร่วมกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา 44 ประตูด้วย (ไม่นับรวมเกมในรอบคัดเลือก)พร้อมกันนี้ บังโม แซงนำ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไปแล้วกับการเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในถ้วยใบนี้ของสโมสร 42 ประตูมากกว่า เดอะ เจิด หนึ่งประตู แต่สุดท้ายทั้งหมดนี้ก็ไม่มีความหมาย

หลังจัดการยิงเบิ้ลตีเสมอให้ เรอัล มาดริด 2-2 วินิซิอุส ก็สถาปนาตัวเองเป็นมือปราบ หงส์แดง เป็นที่เรียบร้อยแล้วรวมเบ็ดเสร็จ กองหน้าทีมชาติ บราซิล ฉีกตาข่าย ลิเวอร์พูล ได้เป็นเม็ดที่ห้าแล้วซึ่งทำให้เขาเป็นดาวยิงที่กระซวกประตู เร้ด แมชีน ในรายการนี้ได้มากที่สุด ส่วนอันดับรองลงมาได้แก่ เบนเซม่า และ ดร็อกบา ซึ่งจัดการไปได้ 4 ประตูเท่ากันและที่สำคัญ วินิซิอุส เป็นนักเตะทีมเยือนที่อายุน้อยที่สุด ( 22 ปี 224 วัน) รองจาก โยฮัน ครัฟฟ์ ( 19 ปี 233 วัน) ที่บุกมายิงประตูใน แอนฟิลด์ ได้สองเม็ดในเกมฟุตบอลยุโรปนัดเดียวกันโดยตำนานทีมชาติ ฮอลแลนด์ ผู้ล่วงลับทำได้ในสีเสื้อของ อาแจ็กซ์ ในเกม ยูโรเปี้ยนคัพ เดือนธ.ค.1966อย่างไรก็ดี เบนเซม่า ไม่ยอมน้อยหน้าเมื่อจัดการกดได้สองเม็ดเช่นกัน พร้อมทั้งกลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ยิงประตูในรังของ หงส์แดง ได้ในถ้วยยุโรป (35ปี) ทำลายสถิติของ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ที่เคยทำไว้กับ อูดิเนเซ่ ในศึก ยูโรปาลีก เดือนต.ค. 2012

และจากสองประตูที่ว่าก็ทำให้ดาวยิงเลือดน้ำหอมกลายเป็นตัวแสบอันดับหนึ่งของ ลิเวอร์พูล แทน วินิซิอุส

ทันทีเนื่องจากเขาเพิ่มสถิติยิงประตูทีมดังของอังกฤษรายนี้ได้เพิ่มเป็นหกเม็ดมากกว่าพ่อค้าแข้งทุกรายที่ทำได้กับ หงส์แดง ในถ้วยใหญ่ของยุโรปโดยในจำนวนนี้สี่ประตูเกิดขึ้นที่ แอนฟิลด์ ด้วยซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะที่ยิงได้ในสนามแห่งนี้ของถ้วยยุโรปมากกว่าดาวเตะทีมเยือนทุกชีวิตเช่นกันขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ไม่เคยเสียประตูนัดเหย้าของถ้วยยุโรปมากถึง 5 ประตูมาก่อนด้วย แต่หนีไม่พ้นโดน เรอัล มาดริด ทำแสบเข้าให้จนได้

อย่างไรก็ดี หากนับรวมรายการอื่นก็ถือเป็นหนที่สามในรอบศตวรรษที่ เร้ด แมชีน โดนยิงในบ้านห้าเม็ดจากที่เคยแพ้ อาร์เซน่อล 6-3 เมื่อเดือนม.ค.2007 และเสมอ อาร์เซน่อล 5-5 เมื่อเดือนต.ค. 2019 (ถ้วย คาราบาวคัพ ลิเวอร์พูล ชนะการดวลลูกโทษตัดสิน)นอกจากนี้ สมัยยังเป็นดิวิชั่นหนึ่งเดิม ลิเวอร์พูล เคยโดน เวสต์บรอมวิช บุกมาถล่ม 5-2 ในเกมเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 1951ลิเวอร์พูล มีอันต้องเสียท่าให้กับคู่ปรับเก่าอีกจนได้แม้จะเริ่มเกมได้อย่างยอดเยี่ยมโดยออกนำเร็วถึง 2-0 แต่สุดท้ายกลับแพ้ไปแบบน่าตกตะลึง 5-2 ซึ่งส่อแววว่าต้องตกรอบแต่เพียงเท่านี้ ทว่า อันเชล็อตติ ยังไม่ด่วนฉลองเนื่องจากเขาระบุว่ายังมีเกมหน้าให้ หงส์แดง พลิกสถานการณ์ได้”เราคอนโทรลเกมได้ดีขึ้นเป็นลำดับ เราเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพในแดนหน้า วินิซิอุส เล่นได้ดีมาก ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีสำหรับเรา” กุนซืออิตาเลี่ยนกล่าว”เราไม่เสียขวัญแม้จะโดนนำก่อน เราคุมเกมได้มากขึ้นเรื่อยๆ

พวกเขาสร้างปัญหาให้เรามากในครึ่งแรกทางฝั่งซ้ายของเรา เฮนเดอร์สัน ประสานงานกับ ซาลาห์ ได้ดี แต่เราคุมเกมได้ในครึ่งหลังโดยมี วัลเวร์เด้ ที่ต้องใช้พลังงานไปเยอะ””โรดริโก้ มีเกมที่วิเศษทั้งรุกและรับ เขาช่วยทีมได้มากเช่นเดียวกับ คาริม””เกมยังไม่จบ ลิเวอร์พูล ย่ำแย่ในครึ่งหลัง แต่เราแย่ในครึ่งแรก จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน แต่เราย่ำแย่””เราต้องแฮปปี้เพราะมันเป็นเกมที่ดี แต่เราต้องรอดูกันในเกมหน้า”

ติดตามข่าวสารใหม่ๆ เพิ่มเติมได้ที่ restaurantguidetoronto.com